การแจ้งย้ายรถ ย้ายทะเบียนรถ By พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

การย้ายรถ หมายความถึง การขอเปลี่ยนแปลงสถานที่ที่รถมีทะเบียนอยู่เดิมให้สอดคล้องกับภูมิลำเนา หรือสถานที่ใช้งานรถของเจ้าของรถที่เปลี่ยนไปจากจังหวัดที่จดทะเบียนไว้ เป็นอีกจังหวัดหนึ่งโดยที่อยู่แห่งใหม่อาจเป็นไปตามทะเบียนบ้านของเจ้าของรถหรือเป็นไปตามทะเบียนบ้านของผู้อื่นที่เจ้าของรถจะขออนุญาตใช้ก็ได้

การแจ้งย้ายรถออก
หลักฐานที่ใช้

1. หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถ ได้แก่ สำเนาหรือภาพถ่ายทะเบียนบ้าน และสำนเาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)
2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ


ขั้นตอนการดำเนินการ

1. ยื่นคำร้องขอย้ายรถออกพร้อมหลักฐาน
2. ชำระเงินค่าธรรมเนียม
3. รับแบบแจ้งย้ายส่วนที่เจ้าของรถถือ และใบคู่มือจดทะเบียนรถคืน


หมายเหตุ

การแจ้งย้ายรถออกจะต้องแจ้งก่อนวันถึงกำหนดเสียภาษีมิฉะนั้นจะต้องเสียภาษีที่ค้างชำระก่อน และเมื่อแจ้งย้ายรถออกเรียบร้อยแล้ว จะต้องดำเนินการแจ้งย้ายรถเข้าภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่แจ้งย้าย (นับรวมวันหยุดราชการ) หากเกินกำหนดต้องเสียค่าปรับตามกฎหมายกำหนด


การแจ้งย้ายรถที่จังหวัดปลายทาง

เจ้าของรถสามารถใช้บริการขอแจ้งย้ายรถที่จังหวัดปลายทางได้โดยรถนั้นต้องไม่มีภาษีค้างชำระ และต้องยื่นคำขอล่วงหน้าก่อนวันครบกำหนดเสียภาษีไม่น้อยกว่า 30 วัน


หลักฐานที่ใช้

1. หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถ ได้แก่ สำเนาหรือภาพถ่ายทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)
2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ


ขั้นตอนการดำเนินการ

1. ยื่นคำร้องขอย้ายรถออกพร้อมหลักฐาน
2. ชำระค่าธรรมเนียม รับใบเสร็จรับเงิน และใบคู่มือจดทะเบียนรถ
3. เมื่อได้รับหนังสือแจ้งให้ไปดำเนินการแจ้งย้ายรถเข้า ให้นำรถไปตรวจสอบพร้อมคืน แผ่นป้ายทะเบียนรถเดิม ซึ่งต้องดำเนินการแจ้งย้ายเข้า ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ระบุไว้ในหนังสือ หากเกินกำหนดเวลาดังกล่าวจะต้องเสียค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด



การแจ้งย้ายรถเข้า


หลักฐานที่ใช้

1. หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถ ได้แก่ สำเนาหรือภาพถ่ายทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)
2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
3. แผ่นป้ายทะเบียนรถเดิม
4. กรณีเจ้าของรถไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดที่แจ้งย้ายรถเข้า ให้ขอแจ้งใช้ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ซึ่งเจ้าบ้านที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้นยินยอม


ขั้นตอนการดำเนินการ

1. ยื่นคำร้องขอย้ายรถเข้าพร้อมหลักฐานภายใน 15 วัน นับแต่วันที่แจ้งย้ายรถออก (นับรวม วันหยุดราชการ)
2. นำรถเข้ารับการตรวจสอบ
3. ชำระค่าธรรมเนียม รับใบเสร็จรับเงิน ใบคู่มือจดทะเบียนรถและแผ่นป้ายทะเบียรถ
4. กรณีเจ้าของรถไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดที่แจ้งย้ายรถเข้า ให้ขอแจ้งใช้ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในจังหวัดนั้นที่เจ้าของบ้านให้ความยินยอม

แนะนำข้อมูล โดย พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว

ต้องการขายรถ ต้องการหาป้ายทะเบียนเลขสวย ติดต่อ พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ www.รู้เรื่องรถ.com

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ รับซื้อขายทะเบียนรถเลขสวย ขายทะเบียนรถเลขมงคล ทะเบียนประมูล จัดหาทะเบียนเลขสวย ติดต่อคุณพีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ 

Line id : morlml
Call 086-367-3107

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

ร้อนๆอย่างนี้ไปเที่ยวทะเลกันดีกว่า โดดน้ำเล่นให้เย็นอุรา ก็บรรยากาศตอนนี้มันช่างร้อนซะเหลือเกิน ก็เลยจะพาไปเที่ยวที่ หาดทรายแก้ว เป็นไงล่ะ แค่เห็นชื่อก็รู้แล้วว่าสวยขนาดไหน พร้อมแล้วไปกันเลย!!!

หาดทรายแก้ว ตั้งอยู่แถวบริเวณโรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อ.สัตหีบ โดยที่ หาดทรายแก้ว แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ต้องการให้คนที่จะมาพักผ่อนได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริง

หาดทรายแก้ว  มีความยาวของชายหาดประมาณ 1,700 เมตร และมีเม็ดทรายขาวละเอียด ระยิบระยับคล้ายกับแก้วตามชื่อของตัวมันเอง และยังมีปะการัง น้ำทะเลใสมากๆ น่าลงเล่นสะอาดและเย็นชื่นใจ อากาศร้อนๆแบบนี้แทบไม่อยากจะขึ้นจากน้ำกันเลยทีเดียว

ภูมิประเทศโดยรอบ หาดทรายแก้ว จะเป็นลักษณะภูเขาล้อมรอบมีพื้นที่หลังหาดที่เป็นพื้นที่ราบประมาณ 100ไร่ และบริเวณรอบๆยังมีป่าละเมาะอีกด้วย สถานที่หลังหาดยังเคยถูกค้นพบเตาเผาถ่านโบราณ ถึง 8 เตา อีกด้วย ด้วยหาดทรายแก้ว เป็นทะเลที่มีลักษณะ ที่มีทรายปนปะการัง จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำดูปะการังได้ด้วย น้ำใสๆแบบนี้บอกเลย เห็นชัดแจ๋วแบบ Full HD กันเลยทีเดียว

นอกจากจะมีปะการัง หาดทรายขาว น้ำทะเลใสๆเย็นๆแล้ว ที่นี่ยังมีบริการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ เช่น มีบริการเต็นท์ เตียงผ้าใบ และอุปกรณ์ต่างๆในการค้างแรม เห็นป่ะ เหมือนกับไปเดินป่าไม่มีผิด ถ้าได้ลองตั้งเต็นท์ค้างคืนที่ริมทะเล นั่งข้างกองไฟ กับบรรยากาศเย็นๆ คงจะโรแมนติกสุดๆไปเลย

นอกจากอุปกรณ์ค้างแรมแล้ว ยังมีอุปกรณ์ในการเล่นกีฬาทางน้ำอีกด้วย เช่น เรือคายัค อุปกรณ์ดำน้ำ เป็นต้น ก็ดูๆแล้วจะคล้ายๆกับการไปล่องแก่งเลยนะเนี่ย มีเรือคายัคด้วย คนที่ชอบโลดโผนหน่อยไม่ผิดหวังแน่นอน และก็ไม่ต้องกลัวลำบากเรื่องอาหารการกินนะ เพราะที่นี่เค้าก็มีบริการร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่มให้พร้อมเสร็จสรรพ เรียกได้ว่า กิน นอน เล่น ในที่เดียวได้เลย สะดวกสุดๆ

ที่ หาดทรายแก้ว เราสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าให้แนะนำควรไปในช่วง ปลายเดือนกันยายน ถึง ต้นเดือนธันวาคม เพราะลมจะไม่แรงมาก และคลื่นในทะเลจะค่อนข้างสงบ เรียกได้ว่าอากาศปลอดโปร่งในช่วงนั้นที่สุดนั่นเอง ทำให้เราไม่เสียอารมณ์กับกิจกรรมต่างๆของเราเพราะอากาศไม่เป็นใจนั่นเอง

ในสัตหีบ ก็ยังมีสถานท่องเที่ยวอีกมากมายให้ได้ลองไปไหนๆถ้าไป หาดทรายแก้ว แล้วก็อย่าให้เสียเที่ยวเปล่าๆ หาข้อมูลสถานที่เที่ยวอื่นๆในสัตหีบเผื่อจะได้แวะไปตอนขากลับ เอาล่ะถ้าพร้อมแล้วเตรียมจัดกระเป๋าได้เลย ความสุขรอคุณอยู่ อย่ามัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้ตัวเองล่ะ พักผ่อนซะบ้าง…..

 

วิธีเลือกดอกยางรถยนต์ By พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ รับซื้อ- ขายเลขทะเบียนประมูล ทะเบียนรถเลขสวย เลขทะเบียนมงคล ถูกกฎหมาย รับจองทะเบียนรถ รับจัดหาทะเบียนสวย ป้ายขาวดำ
รับซื้อรถ-ขายรถยนต์มือสอง แลกเปลี่ยน รถยนต์มือสองทุกยี่ห้อให้ราคาที่คุณพอใจ
เชื่อถือได้ ตรงไปตรงมา สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อคุณพีรพล ทักษิณทวีทรัพย์
โทร.086-367-3107 Line id : morlml www.รู้เรื่องรถ.com

ดอกยางรถยนต์เป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของการใช้งานที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการยึดเกาะบนท้องถนน ตัวของดอกยางจะอยู่ด้านนอกบริเวณหน้ายาง รับการกระแทกจากพื้นถนนโดยตรง ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ประเภทไหนส่วนประกอบนี้ถือว่าขาดไม่ได้สำหรับการใช้งานเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ที่คนมีรถทุกคนต้องทำความเข้าใจ

ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับดอกยาง

ยางรถยนต์หนึ่งเส้นที่มีส่วนของดอกยางและร่องยางถูกออกแบบเอาไว้ในส่วนหน้ายางซึ่งเป็นพื้นที่ยางด้านนอกสุด บางคนจะเข้าใจผิดคิดว่าร่องยางคือดอกยาง ส่วนแผ่นที่สัมผัสกับพื้นถนนเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของรถยนต์เท่านั้น แต่ในความจริงแล้วเจ้าแผ่นเหล่านี้ต่างหากคือส่วนของ “ดอกยาง” และร่องยางก็คือพื้นที่เอาไว้ใช้สำหรับรีดน้ำ ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าดอกยางหมดหรือเสื่อมคุณภาพแต่อย่างใด

โดยทั่วไปยางรถยนต์จึงมีทั้งแบบร่องยางตื้นหรือที่เรียกกันว่า “ยางหัวโล้น” มีความสามารถในการขับขี่บนพื้นถนนที่แห้งได้ดี แต่หากถนนลื่นจะไม่สามารถรีดน้ำออกได้เท่าที่ควร ทำให้เกิดการลื่นได้ง่าย ความเข้าใจใหม่ที่มือใหม่ทั้งหลายควรรู้คือ “ดอกยางที่มีร่องยางถี่จะมีความสามารถในการเกาะถนนได้น้อยกว่าดอกยางที่มีระยะร่องยางห่างกันมากกว่า แต่ความสามารถในการรีดน้ำ หากมีร่องยางน้อย การรีดน้ำก็จะมีคุณภาพน้อยตามไปด้วย”

กล่าวให้เข้าใจง่ายๆ คือยิ่งพื้นที่ดอกยางมากเท่าไหร่ ความสามารถในการเกาะถนนยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ส่วนร่องยางมีหน้าที่ช่วยในการรีดน้ำไม่ใช่เป็นตัวยึดเกาะถนนอย่างที่เข้าใจกัน

การเลือกดอกยางให้เหมาะสำหรับการใช้งาน

เนื่องจากดอกยางมีผลกับการใช้งานบนท้องถนนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการรีดน้ำ ผิวสัมผัสหรือการสลัดเอาทรายหรือโคลนออกไปจากหน้ายาง ซึ่งรวมไปถึงสภาพเสียงของตัวยางก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับดอกยางด้วยเช่นกัน

ยางรถยนต์สำหรับการใช้งานบนพื้นถนนเรียบ – ดอกยางควรมีลักษณะเป็นดอกเรียบๆ ละเอียด ร่องยางห่างจากกันไม่มาก ซึ่งจะช่วยยึดเกาะดอกยางกับพื้นถนนได้แบบไม่เสียการทรงตัว เสียงรบกวนต่ำ อีกทั้งยังมีพื้นที่ช่วยรีดน้ำออกได้อย่างรวดเร็ว

ยางรถยนต์สำหรับใช้ลุย (ถนนขรุขระหรือดินลูกรัง) – ลักษณะของดอกยางกับการใช้งานในยางรถยนต์ที่ต้องพบเจอกับทุกสภาพถนนเช่นนี้ เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อขาลุย ตัวดอกยางจะออกแบบมาให้มีการใช้งานผสมผสานกันระหว่างดอกยางของถนนเรียบและสำหรับทางวิบาก แต่กรณีทางราบความสามารถในการเกาะถนนจะต่ำเล็กน้อย หรือหากใช้ไปกับเส้นทางที่ที่มีก้อนหินตลอดเส้นทาง ยางก็อาจจะไม่สามารถรับสภาพได้ไหว จึงเหมาะหกับถนนลูกรังปานกลาง และไม่ควรใช้งานบ่อยจนเกินไป

ยางรถยนต์สำหรับเส้นทางวิบาก – เนื่องจากสภาพถนนชนิดนี้จะมีสภาพที่ทำให้หน้าสัมผัสของยางกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นก้อนหินแข็งหรือการเผชิญหน้ากับดินโคลนที่มีน้ำมาก เราจะเห็นการใช้งานดอกยางประเภทนี้ในรถออฟโรตเป็นหลัก ลักษณะของร่องจะห่างเป็นพิเศษ เพื่อให้เกิดการยึดเกาะที่ดี และเน้นสำหรับช่วยรีดโคลน เศษหินและน้ำออกไป การออกแบบเช่นนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เศษดินโคลนเข้าไปติดในร่องยางจนทำให้หน้ายางลื่น แต่จะไม่เหมาะสำหรับการนำเอามาใช้บนทางเรียบเนื่องจากผิวสัมผัสถนนได้น้อยและมีเสียงรบกวนเป็นอย่างมาก

การเลือกดอกยางจึงควรเลือกตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่ว่าใช้งานในสภาพถนนแบบไหนเป็นหลัก อีกทั้งต้องสังเกตตัวเองด้วยว่าเป็นคนขับรถเร็ว ชอบเบรกกะทันหันหรือเป็นนักลุยตัวยง ก็จะช่วยให้การเลือกยางเหมาะสม ปลอดภัยกับการใช้งานและลดอุปสรรคในระหว่างการขับขี่ให้น้อยลงได้

 

 

การดูแลรักษาแอร์รถยนต์ By พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์

พีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ รับซื้อ- ขายเลขทะเบียนประมูล ทะเบียนรถเลขสวย เลขทะเบียนมงคล ถูกกฎหมาย รับจองทะเบียนรถ รับจัดหาทะเบียนสวย ป้ายขาวดำ
รับซื้อรถ-ขายรถยนต์มือสอง แลกเปลี่ยน รถยนต์มือสองทุกยี่ห้อให้ราคาที่คุณพอใจ
เชื่อถือได้ ตรงไปตรงมา สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อคุณพีรพล ทักษิณทวีทรัพย์
โทร.086-367-3107 Line id : morlml www.รู้เรื่องรถ.com

แอร์รถยนต์เป็นอีกส่วนหนึ่งของรถ ที่ขาดกันไม่ได้เลยและรถทุกคันต้องมี ผู้ขับขี่และใช้รถทุกคนก็ควรจะรู้วิธีในการดูแลรักษาแอร์รถยนต์กันบ้าง เพื่อให้แอร์คงประสิทธิภาพในการทำงานได้นานขึ้น ซึ่งการดูแลรักษาแอร์รถยนต์เบื้องต้นที่เราสามารถทำได้ง่ายๆ แต่ช่วยรักษาประสิทธิภาพของแอร์ เพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ได้นานๆ และยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกนั้น เริ่มตั้งแต่เมื่อเราเปิดแอร์ในตอนแรก หรือตอนที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ ก็ไม่ควรเปิดแอร์จนสุด แต่ควรรอให้คอมเพรสเซอร์ของแอร์ได้วอร์มตัวเอง ก่อนสักประมาณ 5 นาที หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือควรสตาร์ทเครื่องไว้ ให้พัดลมระบายความร้อนของหม้อน้ำทำงาน พอเครื่องยนต์ถึงอุณหภูมิทำงานแล้ว ค่อยเปิดสวิตซ์แอร์เพื่อปรับอากาศ และไม่ควรตั้งอุณหภูมิให้เย็นจนเกินไป เพราะมันจะทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา ควรเปิดสวิตซ์พัดลม ก่อนที่จะกดสวิตซ์ปรับอากาศ ซึ่งให้เปิดพัดลมในความเร็วสูงสุดไปก่อนสักระยะ แล้วจึงลดลงไปที่ความเร็วเท่าที่จำเป็น

ส่วนคอล์ยเย็นนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้พวกน้ำหอม หรือเสปรย์ปรับอากาศต่างๆ เพื่อป้องกันไอระเหยของสารเคมี ที่จะถูกดูดเข้าไปสะสมที่ครีบของคอล์ยเย็น เพราะสารจำพวกนี้สามารถดูดความชื้นได้ จึงทำให้มีฝุ่นผงไปจับที่ครีบระบายความเย็น เมื่อฝุ่นจับมากขึ้นการถ่ายเทความร้อนจะลดลง คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น ซึ่งควรจะเข้าศูนย์ทำความสะอาด เมื่อรู้สึกว่าประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศลดลง และก่อนจะถึงจุดหมายปลายทาง ประมาณ 15 นาที ควรปิดสวิตว์ระบบปรับอากาศ แล้วเปิดพัดลมไปที่ความเร็วสูงสุด เพื่อเป็นการลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และยังเป็นการช่วยไล่ความชื้นออกจากคอล์ยเย็นด้วย

สำหรับสิ่งที่คุณควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการดูแลรักษาแอร์รถยนต์ นอกจากการใช้งานอย่างถูกวิธีแล้วคือ

  1. ไม่นำน้ำหอมปรับอากาศ ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ไปเสียบไว้ที่ช่องแอร์เพราะอาจจะทำให้ตู้แอร์เกิดการผุกร่อนเร็วยิ่งขึ้น
  2. หากคุณจอดรถตากแดดไว้นานๆ ก่อนใช้รถควรเปิดพัดลมเปล่าๆ ให้ความเร็วสูงสุด เพื่อไล่ความร้อนที่อยู่ในระบบแอร์ออกไปเสียก่อน แล้วค่อยเปิดน้ำยาแอร์
  3. หากต้องจอดรถทิ้งไว้นานๆ เช่น การจอดข้ามคืน ควรเปิดพัดลมเปล่าให้ความเร็วสูงสุด ทิ้งไว้สักประมาณ 5 นาที เพื่อไล่ความชื้อหรือน้ำ ที่ตกค้างในตู้แอร์ออกไปก่อน จะช่วยลดการผุกร่อนของตู้แอร์ ที่ทำมาจากอลูมิเนียม และยังช่วยลดความเหม็นอับได้อีกด้วย
  4. ระบบแอร์เป็นระบบเปิด หากคุณต้องเติมน้ำยาแอร์บ่อยๆ นั่นอาจจะเป็นไปได้ว่า เกิดการรั่วของระบบแอร์ในรถแล้ว
  5. การเปิดกระจกเวลาขับรถบ่อยๆ จะทำให้ฝุ่นเข้ามาในรถและอุดตันในตู้แอร์
  6. เมื่อเปิดน้ำยาแอร์และเปิดสวิตซ์ A/C แล้วแต่แอร์ไม่เย็น ต้องรีบปิดน้ำยาแอร์หรือสวิตซ์ทันที เพราะอาจจะเกิดการรั่ว น้ำยาแอร์และน้ำมันคอมเพรสเซอร์ในระบบมีน้อย ทำให้คอมเพรสเซอร์พังยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกรณีแบบนี้คุณต้องนำรถไปเช็คให้เร็วที่สุด
  7. ล้างแอร์ทุกๆ 2 ปีหรือตามที่คุณเห็นสมควร หากเปิดกระจกขับรถบ่อยๆ ก็ควรล้างทุกปี
  8. หากจำเป็นต้องเปิดกระจกเวลาขับรถ คุณควรจะปิดช่องแอร์ตรงคอนโซล หรือตรงที่แอร์ออกเพื่อเป็นการป้องกันฝุ่น ที่จะเข้าไปในระบบแอร์หรือกันให้มันเข้าไปได้น้อยที่สุด

การดูแลรักษาแอร์ของรถยนต์อย่างถูกวิธี เป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานแอร์ในรถของคุณ ให้คงประสิทธิภาพการทำงานได้เป็นอย่างดีและใช้งานยาวนานขึ้น นั่นเป็นการช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่าย ในการซ่อมบำรุงได้อีกด้วย อย่าลืมนำเทคนิคการดูแลรักษาแอร์รถยนต์ง่ายๆ อย่างนี้ไปใช้กันนะครับ